เฉลย พร้อม อธิบาย ข้อสอบสภาวิศวกร ปี 2552

เฉลย พร้อม อธิบาย ข้อสอบสภาวิศวกร ปี 2552

สาขา : โยธา

วิชา : Highway Engineering

เนื้อหา : Highway materials

ระดับความยากง่าย : ง่าย

จำนวนข้อสอบ : 46 ข้อ

วันพุธที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

ข้อ 1 - 23


ข้อที่:                                 1
โจทย์:                               แอสฟัลต์บริสุทธิ์มีคุณสมบัติที่พิเศษอย่างหนึ่งคือสามารถละลายได้หมดในสารใด 
คำตอบ 1:                        H2SO4
คำตอบ 2:                        HCl
คำตอบ 3:                        NaCl
คำตอบ 4:                        C2HCI3


ข้อที่:                                 2
โจทย์:                               Cutback Asphalt ในข้อใดที่ใช้ในงานลาดยาง Prime Coat         
คำตอบ 1:                        MC-250
คำตอบ 2:                        MC-70
คำตอบ 3:                        RC-250
 คำตอบ 4:                        RC-70

อธิบาย   Rapid Curing (RC) คือคัทแบคแอสฟัลต์ AC ผสมกับน้ำมันประเภทระเหยเร็ว เช่น เบนซินหรือ Naphtha มีจุดเดือด 250- 400 F เหมาะสมใช้กับงานที่ต้องให้เกิดความเหนียวหรือการยึดเกาะอย่างรวดเร็ว เช่น Prime Coat , Tack Coat และทำผิวจราจรชนิด Surface Treatment มีเกรดตั้งแต่ RC – 70 ถึง RC-3000


ข้อที่:                           3
โจทย์:                               Asphalt ชนิดใดที่ใช้ในงาน Asphalt Concrete ผสมร้อน            
คำตอบ 1:                        AC 60-70
คำตอบ 2:                        AC 120-150
คำตอบ 3:                        MC-70
คำตอบ 4:                        RS-2

อธิบาย     แอสฟัลท์ซีเมนต์ (AC) ใช้กับงานก่อสร้างถนนลาดยางโดยทั่วไป เกรดที่เหมาะสมใช้กันมากสำหรับงานก่อสร้างถนนคือ 80-100 และ 60-70


ข้อที่:                                 4
โจทย์:                               ในงาน Cold Mixed Asphalt Concrete จะใช้ Asphalt ชนิดใด
คำตอบ 1:                        AC 60-70
คำตอบ 2:                        MC-70
คำตอบ 3:                        RS-2
คำตอบ 4:                        CMS-2h

อธิบาย    CMS-2h คือแอสฟัลต์อิมัลชันประเภทแยกแยกตัวเร็วปานกลาง ผลิตขึ้นด้วยกระบวนการ SMEP ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์เฉพาะ ยางมะตอยพื้นฐานสำหรับการผลิตแอสฟัลต์อิมัลชัน ผลิตจากน้ำมันดิบที่คัดสรรมาเป็นพิเศษ ผ่านกระบวนการกลั่นที่ควบคุมอย่างละเอียดรอบคอบใช้ในงานผสมหลายประเภท เช่น งานโคลต์มิกซ์ (Coldmixes)                           

คุณสมบัติและคุณลักษณะที่กำหนดมี คุณลักษณะที่กำหนดตรงตามมาตรฐาน มอก.371-2530 ดังต่อไปนี้

แอสฟัลต์อิมัลชัน
หน่วย
วิธีทดลอง
CMS-2h
ความหนืดเซย์โบลต์ฟูรอล ที่ 50°C
วินาที
ASTMD 244
50-450
การแยกชั้นหลังจากเวลา 5 วัน (ไม่เกิน)
% โดยน้ำหนัก
ASTMD 6930
5
เสถียรภาพต่อการเก็บ ภายใน 24 ชั่วโมง (ไม่เกิน)
% โดยน้ำหนัก
ASTMD 6930
1
ปริมาณค้างบนแร่ง 850 ไมโครเมตร (20เมซ) (ไม่เกิน)
% โดยน้ำหนัก
ASTMD 6933
0.1
ประจุของอนุภาคแอสฟัลต์

ASTMD 244
บวก
ความสามารถในการเคลือบหินและกันน้ำ (ไม่น่อยกว่า)
หินแห้ง
หินเปียก
%ของพื้นที่ที่เคลือบ
ASTMD 244

80
60
การกลั่นอิมัลชัน



น้ำมันที่ได้จากการกลั่นเทียบกับปริมาตรของอิมัลชัน (ไม่เกิน)
%
ASTMD 6997
12
กาก (ไม่น้อยกว่า)
%โดยน้ำหนัก
ASTMD 6997
65
กากที่เหลือจากการกลั่น



เพนิเทรซัน ที่25°C น้ำหนักกด 100 กรัม เวลา 5 วินาที
0.1 มม.
ASTMD 5
40-90
การยึดดึง ที่ 25°C อัตราเร็วของเครื่องดึง 5 ซม./นาที (ไม่น้อยกว่า)
ซม.
ASTMD 113
40
การละลายในโตรคลอโรเอทิลีน (ไม่น้อยกว่า)
%โดยน้ำหนัก
ASTMD 2042
97.5


ข้อที่:                           5
โจทย์:                               การหาค่าความหนืดของ Emulsified Asphalt โดยทั่วไปจะทดสอบตัวอย่างที่อุณหภูมิใด     
คำตอบ 1:                        25 C
คำตอบ 2:                        30 C
คำตอบ 3:                        55 C
คำตอบ 4:                        60 C

อธิบาย     แอสฟัลท์ซีเมนต์ (AC)  มีคุณสมบัติกึ่งแข็งนิยมบอกเกรดของ AC เป็นจำนวนค่า Penetration ซึ่งได้จากการทดลองกดเข็มมาตรฐานหนัก 100 กรัม ที่อุณหภูมิ 25 C เป็นเวลา 5 วินาที


ข้อที่:                           6
โจทย์:                               ตามมาตรฐานของกรมทางหลวงคอนกรีตที่ใช้ในงานผิวทางคอนกรีตจะต้องมีกำลังอัดลูกบาศก์ไม่น้อยกว่าเท่าใด    
คำตอบ 1:                        180 ksc
คำตอบ 2:                        240 ksc
คำตอบ 3:                        280 ksc
คำตอบ 4:                        325 ksc

อธิบาย    ผิวทางคอนกรีตทำหน้าที่รับน้ำหนักจากล้อรถแล้วถ่ายลงสู่พื้นทางและดินคันทาง คุณสมบัติของหินและทรายที่ใช้ก่อสร้างจะต้องมีความเข็งแรง ทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศ ซึ่งเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดปี ปูนซีเมนต์ที่นำมาใช้ผสมคอนกรีตก็ควรเป็นปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ ส่วนผสมคอนกรีตจะต้องมีความสามารถรับกำลังอัดได้สูง ซึ่งต้องไม่น้อยกว่า 325 ksc


ข้อที่:                                 7
โจทย์:                               วัสดุที่ใช้เป็นส่วนผสมสำหรับแอสฟัลต์คอนกรีตผสมร้อน มีอะไรบ้าง    
คำตอบ 1:                        แอสฟัลต์ซีเมนต์ น้ำ วัสดุมวลรวม ซีเมนต์
คำตอบ 2:                        แอสฟัลต์อีมัลชัน วัสดุมวลรวม
คำตอบ 3:                        แอสฟัลต์ซีเมนต์ วัสดุมวลรวม
คำตอบ 4:                          ซีเมนต์ วัสดุมวลรวม น้ำ

อธิบาย  Hot-mixed Asphalt หรือแอสฟัลต์คอนกรีต(Asphalt Concrete) ประกอบด้วยวัสดุมวลรวมกับแอสฟัลต์ซีเมนต์ ที่อุณหภูมิสูง ดังนั้นจึงมักผสมที่หน่วยผลิต หรือโรงงาน (Mixing plant) ซึ่งสามารถควบคุมอัตราส่วน และอุณหภูมิได้ตามกำหนด ผิวทางประเภทนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในงานก่อสร้าง งานบูรณะ และงานบำรุงทาง โดยการปูหรือเกลี่ยแต่งและบดทับบนชั้นทางใดๆ หรือพื้นผิวที่ได้เตรียมไว้


ข้อที่:                                 8
โจทย์:                               Cutback Asphalt ได้จากส่วนผสมใดต่อไปนี้
 คำตอบ 1:                        แอสฟัลต์ซีเมนต์ กับ วัสดุมวลรวม
คำตอบ 2:                        แอสฟัลต์อิมัลชัน กับ วัสดุมวลรวม
คำตอบ 3:                        แอสฟัลต์ซีเมนต์ กับ อิมัลซิไฟอิงเอเจนต์
คำตอบ 4:                        แอสฟัลต์ซีเมนต์ กับ น้ำมันที่ได้จากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
คำตอบ 5:                        ผิดทุกข้อ

อธิบาย   คัทแบคแอสฟัลท์ (Cutback Asphalt) เป็นแอสฟัลท์เหลวได้จากการนำ AC ผสมกับน้ำมันบางชนิด เช่น เบนซิน น้ำมันก๊าด น้ำมันโซล่า ตามความเหมาะสมและความต้องการใช้งาน


ข้อที่:                                 9
โจทย์:                               แอสฟัลต์อิมัลชัน ได้จากส่วนผสมใดต่อไปนี้  
คำตอบ 1:                        แอสฟัลต์ซีเมนต์ กับ วัสดุมวลรวม
คำตอบ 2:                        แอสฟัลต์ซีเมนต์ กับ น้ำ
คำตอบ 3:                        แอสฟัลต์ซีเมนต์ กับ อิมัลซิไฟอิงเอเจนต์ กับ น้ำ
คำตอบ 4:                        แอสฟัลต์ซีเมนต์ กับ อิมัลซิไฟอิงเอเจนต์ กับ น้ำมันที่ได้จากปิโตรเลียม
คำตอบ 5:                        แอสฟัลต์ซีเมนต์ กับ น้ำมันที่ได้จากปิโตรเลียม

อธิบาย   Emulsion หรือ Emulsified Asphalt เป็นส่วนผสมของแอสฟัลต์ซีเมนต์กับน้ำ แต่เนื่องจากองค์ประกอบทั้งสองไม่สามารถรวมกันได้โดยตรง จึงต้องเติม Emulsifier ลงในส่วนผสม เพื่อ Emulsifier จะทำให้แอลฟัสต์ซีเมนต์แตกตัว และกระจายออกในรูปของหยดที่มีขนาดเล็กมากในน้ำเมื่อใช้งาน Emulsion จะก่อตัวพร้อมๆกับน้ำระเหยไป โดยทั่วไป Emulsion ประกอบด้วยแอสฟัลต์ซีเมนต์ และ Emulsifier ร้อยละ 3 เป็นอย่างมาก แล้วเติมน้ำให้ครบส่วน


ข้อที่:                                 10
โจทย์:                               ยางแอสฟัลต์จะมีลักษณะเป็นสีใด     
คำตอบ 1:                        เทา
คำตอบ 2:                        น้ำตาลแก่
คำตอบ 3:                        ดำ
คำตอบ 4:                        ข้อ 2 และ ข้อ 3 ถูก

อธิบาย    ASTM ให้คำจำกัดความของแอสฟัลท์ว่า  เป็นวัสดุสีน้ำตาลหรือสีดำ เหนียวเชื่อมยึดติดผิวได้ มีสภาพเป็นของแข็ง (Solid) กึ่งแข็ง (Semisolid) หรือเหลว (Liquid) ได้  มีส่วน ประกอบสำคัญ คือ บิทเมน (Bitumen)  เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ หรืออาจเป็นผลพลอยได้จากอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมัน


ข้อที่:                                 11
โจทย์:                               การทดลองใดใช้หาค่าการสึกหรอของวัสดุมวลหยาบ
รูปภาพประกอบคำถาม:  
คำตอบ 1:                        Stripping Test
คำตอบ 2:                        Job Mix Formula
คำตอบ 3:                        Particle Charge Test
คำตอบ 4:                        Los Angeles Abrasion Test

อธิบาย    วัสดุมวลหยาบต้องมีความแกร่งทนทานต่อแรงบดทับหรือเสียดสี ภาตใต้น้ำหนักของยานพาหนะ หินที่เปราะแตกบิ่นได้ง่ายไม่ควรนำมาใช้ก่อสร้างพื้นทาง หรือหินที่มีเปอร์เซ็นต์สึกหรอเมื่อทดสอบโดยวิธี Los Angeles Abrasion Test มากกว่า 40% จะต้องไม่นำมาใช้ในงานก่อสร้าง


ข้อที่:                                 12
โจทย์:                               วัสดุชั้นรองพื้นทางโดยทั่วไปจะใช้วัสดุอะไร
คำตอบ 1:                        ลูกรัง
คำตอบ 2:                        หินโม่หรือกรวดโม่
คำตอบ 3:                        หินคลุก
คำตอบ 4:                        ดินเดิม

อธิบาย      รองพื้นทาง (Subbase Course) ใช้บริเวณที่ Subgrade อ่อนมากหรือในบริเวณที่วัสดุสำหรับทำรองพื้นทางหาได้ง่ายและราคาถูก จึงลดความหนาของชั้นพื้นทางและใช้พื้นทางและใช้วัสดุซึ่งมีคุณภาพด้อยกว่าแต่ราคาถูกกว่าแทน วัสดุที่ใช้อาจเป็นดินลูกรัง หรือ Granular Soil


ข้อที่:                                 13
โจทย์:                               Asphalt Cement แบ่งเกรดโดยการทดลองใด  
คำตอบ 1:                        Softening Point
คำตอบ 2:                        Specific Gravity
คำตอบ 3:                        Float Test
คำตอบ 4:                        Penetration Test

อธิบาย     แอสฟัลซีเมนต์ (AC) มีคุณสมบัติกึ่งแข็งนิยมบอกเกรดของ AC เป็นจำนวน Penetration ซึ่งได้จากการทดลองกดด้วยเข็มมาตรฐานหนัก 100 กรัม ที่อุณหภูมิ 25 C เป็นเวลา 5 วินาที


ข้อที่:                                 14
โจทย์:                               ตะกรันเหล็กเป็นมวลรวมประเภทใด สามารถนำมาใช้ทำผิวจราจรได้
คำตอบ 1:                        Pit or Bank-Run Materials
คำตอบ 2:                        Processed Aggregates
คำตอบ 3:                        Synthetic or Artificial Aggregates
คำตอบ 4:                        Selected Materials

อธิบาย     ตะกรันเหล็ก Synthetic or Artificial Aggregates เป็นมวลรวมประเภทสังเคราะห์โดยใช้เตาหลอมตะกรันที่เกิดขึ้นเป็นผลจากการหลอมตัวของแคลเซียมออกไซด์จากหินปูน กับซิลิกอนและอะลูมินาจากแท่งเหล็กและถ่านโค้ก (Coke) ตะกรันเหล็กที่หลอมจะลอยอยู่ ด้านบนของบ้า หลอม จะถูกทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็วโดยการเทน้ำหรือใช้น้ำฉีดทันที ผลก็คือ ตะกรันเหล็กส่วนใหญ่จะกลายเป็นเม็ดแก้วกลมที่มีองค์ประกอบทางเคมีที่ค่อน ข้างแน่นอน หลังจากนั้นจะผ่านขบวนการระเหยน้ำออก และทำการบดเช่นเดียวกับการบดปูนซีเมนต์
ประโยชน์ของตะกรันเหล็ก
-เป็นมวลรวมส่วนผสมในวัสดุปอซ์ตโซลานทำให้คอนกรีตมีเนื้อแน่น มีความต้านทานการซึมผ่านของน้ำได้ดี (Low Permeability) ทำให้เหมาะที่จะใช้ในงาน ถนนคอนกรีต สระว่ายน้ำและถังเก็บน้ำ
-เพิ่มกำลังอัดและกำลังดัด (Flexural Strength) ของคอนกรีต



ข้อที่:                                  15
โจทย์:                               แอสฟัลต์ชนิดใดมีคุณสมบัติพิเศษเหมาะที่จะใช้กับงานทางด้านอุตสาหกรรมและงานพิเศษต่าง ๆ เช่น งานหลังคา งานเคลือบผิวท่อ เป็นต้น       
คำตอบ 1:                        Air Blown Asphalt
คำตอบ 2:                        Asphalt Cement
คำตอบ 3:                        Cutback Asphalt
คำตอบ 4:                        Emulsified Asphalt

อธิบาย      Air Blown หรือ Oxidized Asphalt มีสภาพแข็ง จุดอ่อนตัวสูงกว่าแอสฟัลต์ทั่วๆไปทนทานต่อสภาพอากาศ ทว่ากำลังยึดเกาะน้อย ฉะนั้นในการใช้งานจึงใช้สำหรับงานซ่อมแซมเล็กๆน้อยๆ เช่น เชื่อมอุดรอยตัวแตกร้าว กันซึม(Water proof)หรือเติมรอยต่างๆ(Join filler)


ข้อที่:                                 16
โจทย์:                               AASHTO กำหนดค่ามาตรฐานสำหรับวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างพื้นทาง(ส่วนที่ผ่านตะแกรงเบอร์ 40) ในข้อใด    
คำตอบ 1:                        Liquid Limit (LL) น้อยกว่าเท่ากับ 25% Plastic Index (PI) น้อยกว่าเท่ากับ 6%
คำตอบ 2:                        Liquid Limit (LL) น้อยกว่าเท่ากับ 25% Plastic Limit (PI) น้อยกว่าเท่ากับ 6%
คำตอบ 3:                        Liquid Limit (LL) น้อยกว่าเท่ากับ 50% Plastic Index (PI) น้อยกว่าเท่ากับ 6%
คำตอบ 4:                        Liquid Limit (LL) น้อยกว่าเท่ากับ 50% Plastic Limit (PI) น้อยกว่าเท่ากับ 6%

อธิบาย   การทดสอบ CBR ของ Granular Soil ซึ่งมีมวลละเอียดคละต่างกัน มวลที่มีค่า PI ต่ำจะมีค่าเปอร์เซ็นต์ CBR สูง AASHTO ได้กำหนดค่ามาตรฐานสำหรับวัสดุใช้ก่อสร้างพื้นทาง มี LL ไม่เกิน 25% PI ไม่เกิน 6% ขณะเดียวกันการกำหนดคุณสมบัติทางขนาดคละ (Gradation) ก็มีความสำคัญยิ่งเช่นกัน เพราะถ้าเปอร์เซ็นต์ขนาดคละของดินและหิน(เปอร์เซ็นต์เฉพาะผ่านตะแกรง No.40) เป็นไปตามข้อกำหนดค่าของ PI ก็จะต้องมีคุณสมบัติตามข้อกำหนดเช่นกัน


ข้อที่:                                 17
โจทย์:                               ข้อใดมิใช่ผลที่ได้ในการปรับปรุงคุณภาพดินด้วยปูนขาว              
คำตอบ 1:                        ลดความเป็นพลาสติก (PI)
คำตอบ 2:                        เพิ่มกำลังรับแรงเฉือนของดิน
คำตอบ 3:                        เพิ่มกำลังรับแรงอัด
คำตอบ 4:                        ลดขนาดมวลดิน

อธิบาย    การใช้ปูนขาวผสมดินเหนียวเหมาะสมกับประเทศในแถบที่มีอากาศร้อนโดยเฉพาะบริเวณที่มีปํญหาที่มีปัญหาในการก่อสร้าง  จุดประสงค์การใช้ปูนขาวปรับปรุงคุณภาพมี 2 ประการ คือ
1.             ใช้ปูนขาวเป็นตัวเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของดิน เรียกว่า Lime Modification ซึ่งจะทำให้คุณสมบัติของดินเปลี่ยนแปลงไป เช่น ลดความเป็นพลาสติก (PI) ช่วยให้เกิดความสะดวกในการทำงาน (workability)เพิ่มขนาดของมวลเม็ดดิน
2.             ใช้ปูนขาวช่วยให้เกิดความแข็งแรงรับน้ำหนักได้สูงขึ้นลดการบวมตัว เพิ่มค่าแรงเฉือนของดิน (CBR)



ข้อที่:                                 18
โจทย์:                               การปรับปรุงคุณภาพดินด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ไม่เหมาะที่จะใช้กับชั้นทางชั้นใด               
คำตอบ 1:                        ดินคันทาง
คำตอบ 2:                        รองพื้นทาง
คำตอบ 3:                        พื้นทาง
คำตอบ 4:                        ผิวทาง

อธิบาย    ปอร์ตแลนด์ซีเมนต์เหมาะสมกับดินประเภทดินลูกรัง กรวดบก ทรายบก หินผุ และดินทราย ซึ่งมีขนาดคละต่างๆกันดินเม็ดหยาบจะใช้ปริมาณปูนซีเมนต์น้อยกว่าดินเม็ดละเอียด การผสมและการทำงานก็ง่ายและสะดวกกว่าดินเม็ดละเอียดดินปรับปรุงคุณภาพด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ใช้งานได้ดีกับดินคันทาง รองพื้นทาง และพื้นทาง


ข้อที่:                                 19
โจทย์:                               การใช้วัสดุปรับปรุงคุณภาพดินในข้อใดไม่เหมาะกับชนิดของดิน             
คำตอบ 1:                        ใช้ปอร์ตแลนด์ซีเมนต์กับดินทราย
คำตอบ 2:                        ใช้ปูนขาวกับดินเหนียว
คำตอบ 3:                        ใช้แอสฟัลต์กับดินเหนียว
 คำตอบ 4:                        ใช้ปูนขาวกับดินเหนียวปนทราย

อธิบาย  การปรับปรุงคุณภาพดิน
           การใช้ปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ปรับปรุงคุณภาพดิน (Soil Cement)  ปอร์ตแลนด์ซีเมนต์เหมาะกับดินประเภทดินลุกรัง กรวดบก ทรายบก หินผุและดินทราย ซึ่งมีขนาดคละต่างๆกัน ดินเม็ดหยาบจะใช้ปริมาณปูนซีเมนต์กว่าดินเม็ดละเลียด การผสมและการทำงานง่ายและสะดวกกว่าดินเม็ดละเลียด ดินปรับปรุงคุณภาพด้วยปอร์ตแลนด์ซีเมนต์ ใช้งานได้ดีกับดินคันทาง รองพื้นทาง และพื้นทาง
           การใช้ปูนขาวกับดินเหนียว ปูนขาวใช้ได้กับดินทุกกชนิดละดินเหนียวประเภท Montmorillonite ทำปฎิกิริยาได้ดีกับปูนขาว ทำให้ลดค่า PIลงได้ปริมาณของปูนขาวที่เหมาะสมอยู่ระหว่าง 5-10% โดยน้ำหนัก
          การใช้ปูนขาวกับดินทราย ปูนขาวไม่ทำปฎิกิริยากับทราย เพราะ ในทรายไม่มี Clay Minerals แต่ถ้าเป็นดินทราย (Sand-Clay) ก็สามารถใช้ปูนขาวได้ผลดีเพราะปูนขาวจะเข้าไปทำปฎิกิริยา Pozzolanic Action และที่สำคัญคือ ลด PI ของดิน


ข้อที่:                                 20
โจทย์:                               ความมุ่งหมายของการใช้วัสดุปรับปรุงคุณภาพดินในข้อใดไม่ถูกต้อง
รูปภาพประกอบคำถาม:  
คำตอบ 1:                        ใช้ปอร์ตแลนด์ซีเมนต์เพื่อลด Plastic Index
คำตอบ 2:                        ใช้ปูนขาวเพื่อลด Plastic Limit
คำตอบ 3:                        ใช้แอสฟัลต์เพื่อให้ดินลดปริมาณการดูดซึมน้ำ
คำตอบ 4:                        ใช้การพ่นยางแอสฟัลต์คลุมทับดินที่บดอัดแล้วเพื่อป้องกันมิให้น้ำซึมเข้าสู่ดิน

อธิบาย  ปูนขาวจะเข้าไปทำปฎิกิริยา Pozzolanic Action และที่สำคัญคือ ลด Plastic Index ของดิน ไม่ใช่ ลด Plastic Limit


ข้อที่:                                 21
โจทย์:                               แอสฟัลต์ชนิดใดไม่เหมาะในการใช้เพื่อปรับปรุงคุณภาพดินเหนียว
รูปภาพประกอบคำถาม:  
คำตอบ 1:                        Cutback Asphalt ชนิด RC
คำตอบ 2:                        Cutback Asphalt ชนิด MC
คำตอบ 3:                        Cutback Asphalt ชนิด SC
คำตอบ 4:                        Emulsified Asphalt RT 5

อธิบาย การใช้ Cutback Asphalt ชนิด SC ไม่เหมาะสมเนื่องจากมีข้อจำกัดการใช้งาน คือใช้ได้เฉพาะกับหินที่แห้งสนิทแล้วเมื่อระเหยเกิดมลภาวะ ใช้น้ำมันผสมทำให้สิ้นเปลืองพลังงาน และมีราคาสูง ความปลอดภัยเพราะมีจุดวาบไฟที่อุณหภูมิไม่สูงนัก  Cutback Asphalt เป็นตัวทำละลาย (solvent) ในการละลายแอสฟัลต์ซีเมนต์ เรียกได้หลายอย่างคือ distillatc ( ดิสทิเลด ) diluent ( ดิลูเอนท์ ) ถ้าตัวทำละลายเป็นสารระเหยง่ายก็จะระเหยอย่างรวดเร็วโดยการกลายเป็นไอ ส่วนตัวทำละลายที่เป็นสารละลายระเหยช้าก็จะกลายเป็นไอช้ากว่า ดังนั้นการแบ่งคัทแบ็กแอสฟัลต์โดยการเทียบเคียงอัตราเร็วของการระเหยสามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด ดังนี้
1. Rapid curing (ชนิดแข็งตัวเร็ว) เรียกย่อๆ ว่า RC ประกอบด้วยแอสฟัลต์ซีเมนต์กับตัวทำละลายที่ระเหยเร็ว (จุดเดือดต่ำ) ได้แก่ น้ำมันเบนซิน หรือ naphtha
2. Medium curing (ชนิดแข็งตัวเร็วปานกลาง) เรียกย่อๆ ว่า MC ประกอบด้วยแอสฟัลต์ซีเมนต์กับตัวทำละลายที่ระเหยเร็วปานกลาง ได้ kerosene (น้ำมันก๊าด)
3. Slow curing (ชนิดแข็งตัวช้า) เรียกย่อๆ ว่า SC ประกอบด้วยแอสฟัลต์ซีเมนต์กับน้ำมันที่ระเหยช้าหรืออาจได้จากการกลั่นโดยตรง คัทแบ็คแอสฟัลต์ชนิด SC นี้บางครั้งก็เรียกกันว่า  Road oils
                 ระดับความเหลวของ cutback asphalt ขึ้นอยู่กับสัดส่วนของตัวทำละลายกับแอสฟัลต์ซีเมนรต์ ความแข็งของแอสฟัลต์ซีเมนต์ที่นำมาใช้ทำคัทแบ็คแอสฟัลต์ก็มีผลต่อระดับความเหลวอยู่บ้างจากระดับความเหลวสามารถแบ่งคัทแบ็คแอสฟัลต์ออกเป็นหลายเกรด บางเกรดมีลักษณะเป็นของเหลวที่อุณหภูมิธรรมดา บางเกรดหนืดพอประมาณก็ต้องให้ความร้อนเล็กน้อยเพื่อให้เหลวเพียงพอที่จะใช้ปฎิบัติงานก่อสร้าง  


ข้อที่:                                 22
โจทย์:                               ข้อใดคือยางประเภท Cutback Asphalt             
คำตอบ 1:                        RM
คำตอบ 2:                        RS
คำตอบ 3:                        RD
คำตอบ 4:                        RC

อธิบาย  เกรดของ Cutback  จะขึ้นอยู่กับชนิดตัวทำละลาย ซึ่งจะทำให้หนืด และระเหยตัวแตกต่างกัน ชนิดแข็งตัวเร็ว (Rapid Curing ,RC) ใช้น้ำมันเบนซิน (Benzene) เป็นตัวทำละลาย ชนิดแข็งตัวปานกลาง (Medium Curing ,MC) ใช้น้ำมันก๊าด (Kerosene) เป็นตัวทำละลาย และชนิดแข็งตัวช้า (Slow Curing ,SC)         ใช้น้ำมันดีเซล (Diesel) เป็นตัวทำลาย


ข้อที่:                                 23
โจทย์:                               ข้อใดคือยางประเภท Emulsion Asphalt          
คำตอบ 1:                        CRS
คำตอบ 2:                        CMD
คำตอบ 3:                        CRB
คำตอบ 4:                        CBS

อธิบาย  Emulsified แบ่งเป็น
           1.Anionic Emulsified Asphalt มีคุณสมบัติเป็น Negative charge ใช้หินที่มีประจุไฟฟ้าเป็นบวก (Positions)
              - Rapid setting (RS)
              - Medium setting (MS)
              - Slow setting (SS)
           2.Cationic Emulsified Asphalt มีคุณสมบัติเป็น Positive charge ใช้กับหินที่มีประจุไฟฟ้าเป็นลบ (Negative)
              - Rapid setting (CRS)
              - Medium setting (CMS)
              - Slow setting (SS)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น